เพื่อทะนุถนอมอายุการใช้งานเมียของท่านให้ยืนยาว
และเป็นการรักษาอายุของท่านเองด้วย เราขอแนะนำข้อปฏิบัติ
หลักสิบประการ เพื่อใช้และบำรุงรักษาเมียออโตเมติก ดังต่อไปนี้
1. เมื่อเริ่มจะใช้งานเมียนั้น ควรอุ่นเครื่องก่อนทุกครั้ง
เพราะการใช้งาน ทันทีทันใด ในขณะที่น้ำมันเครื่องยังไม่ได้หล่อลื่นไปทั่วห้องเค รื่องนั้น
อาจทำให้ลูกสูบติด หัก หรืองอได้
2. ในตอนออกสตาร์ทใหม่ๆ อย่าเร่งเครื่องทันที
เพราะการเร่งเครื่องทันทีนั้น อาจทำให้ ผู้ขับเกิดอาการอ่อนเพลีย
ขับได้ไม่นาน อาการตอบสนองของเครื่องจะไม่ดี เครื่องกระตุก นอกจากนั้น
เครื่องอาจหงุดหงิด เกิดอาการสำลักน้ำมันได้ง่าย และการเดินทางจะไม่ถึงที่หมาย
3. ในขณะติดไฟแดงนั้น ไม่ควรใช้งาน แม้ในทางทฤษฎีแล้ว
เครื่องบางเครื่องอาจเป็นช่วงเหมาะสมที่จะนำไปใช้งาน
แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่ควรใช้งาน
เนื่องจากเครื่องอาจเกิดปัญหา ผุกร่อน คราบเขม่า น้ำมันจารบี
อีกทั้งยังอาจผลเสียต่อสุขภาพของผู้ขับขี่ และเครื่องเช่นกัน
ในจังหวะไฟเขียว ก็ควรจะดูรอบเครื ่องและอุณหภูมิด้วย
อย่าสุ่มสี่สุ่มห้า ใช้ไม่บันยะบันยัง อาจเกิดปัญหาอื่นตามมาได้
โดยเฉพาะในกรณีท่านที่ขับรถสปอร์ต ยืมเขามาขับ
หรือลักลอบขับยิ่งอันตรายมาก
สำหรับผู้ขับที่ยังไม่ได้มีรถส่วนตัวอย่างแท้จริง
ส่วนท่านที่ใช้รถครอบครัวกรณีนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใ ด ตกลงกันได้เสมอ
4. สำหรับรถและเครื่องที่มีอายุการใช้งานมานาน
การขับขี่อาจนุ่มนวล แต่รู้สึกว่าการตอบสนองไม่เร้าใจ
เนื่องจากเกิดความคุ้นชิน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า
ท่านอาจเปลี่ยนแปลงวิธีขับ เช่น รู้จักเข้าโค้งอย่างนุ่มนวล
หรือในทางตรงกันข้าม เข้าโค้งรุนแรง ขับถอยหลัง ขับออกด้านข้าง
ขับขึ้นเขา ขับลงเขา ขับๆ หยุด ๆ
ซึ่งจะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ขับเกิดความตื่นเต้น และเครื่องยนต์
ก็จะตอบสนองดีขึ้น หากท่านใช้วิธีขับแบบเดิม ทื่อๆ ไป ไม่มีความเร้าใจ
เครื่องและรถก็อาจอยากได้คนขับใหม่ด้วยเช่นกัน
อย่าได้คิดว่าเปลี่ยนรถจะง่ายกว่าฝ่ายเดียวนะ
5. สำหรับมือใหม่หัดขับนั้น หากได้รถยังไม่พ้น รัน-อิน
ยิ่งควรทะนุถนอม เพราะการขับอย่างรุนแรง ตะกรุมตะกรามนั้น
อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความเข็ด
และไม่ให้ความร่วมมือในการเดินทางครั้งต่อไป เนื่องจาก
อาจเกิดภาวะความเสียหายของห้องเครื่องได้ง่าย ควรค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง จึงควรเปลี่ยนแปลงวิธีการขับ
เป็นขับโลดโผน เสี่ยงตาย ขับควงสว่าน ขับลงน้ำ ขับกลางสายฝน
ขับหงายท้อง ก็แล้วแต่จะดัดแปลง
6. สำหรับผู้ใช้รถเก่า เมื่ออายุการใช้งานนานพอสมควร
หรืออายุเครื่องถึงสามสิบปี ควรนำเข้าศูนย์ เช็คช่วงล่าง
และกันชนหน้าเสมอ เพราะอาจเกิดสภาวะการผุกร่อน หรือการเปลี่ยน
แปลงทางเคมี ขอให้นำเข้าตรวจสภาพเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
รักรถ ต้องหมั่นตรวจ โปรดจำไว้..ส่วนการจะนำไปโอเว่อร์ฮอล หรือไม่นั้น
แล้วแต่จะตกลงกัน ในความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า
เรื่องนี้สำคัญที่ใจ และฝีมือคนขับด้วย ไม่ใช่โทษแต่เครื่องยนต์อย่างเดียว
7. ระหว่างการขับขี่ ไม่ว่ารถมีอายุการใช้งานอย่างใด
ข้อควรระวังก็คือ ห้ามบ่นอย่างเด็ดขาด ว่า เครื่องไม่ฟิตเหมือนเดิม
หรือว่ากำลังแรงม้าลดลง ขับไม่ตื่นเต้น หรือชมว่า คันนู้น คันนี้
น่านั่งน่าขับ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ หรืออย่างเบาะ ๆ
อาจเสียทรัพย์สิน อุบัติเหตุในเรื่องดังกล่าว มี
อัตราชายไทยเสียชีวิตสูงมาก สังเกตุได้จากหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์รายวัน
8. เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการขับขี่ :
การใช้งานอย่างราบรื่นนั้น อาจต้องหมั่นเปลี่ยนบรรยากาศการขับ
เปลี่ยนสถานที่ขับขี่ (อย่าเปลี่ยนคัน อันตรายมาก เตือนแล้ว!!)
สำหรับท่านที่ใช้รถครอบครัว
ให้ดูแลลูกเต้าให้หลับเป็นที่เป็นทางให้เรียบร้อย
เพราะการขับขี่อาจหยุดชะงักลงได้ เนื่องจากเจอปัญหา เด็กข้ามตัดหน้า
เด็กเปิดประตูระหว่างขับ ไม่ข้ามทางม้าลาย จนต้องอุทาน 'ลูกใครหว่า?'
เขิน เป็นที่สุด..อ้อ..ไม่ควรสูบบุหรี่ก่อน หรือระหว่างขับ
เนื่องจากกลิ่นบุหรี่จะทำให้รถเกิดความสกปรก เครื่องยนต์ตอบสนองไม่ดี
แปรงฟันเสียด้วย หากกินข้าวกินปลาเสร็จใหม่ๆ พักสักแป๊บก็ดี
เดี๋ยวจุกแย่ ผู้ขับมือใหม่ หากตื่นเต้น ระหว่างขับ ให้ชลอความเร็ว
ลดรอบเครื่องยนต์ คิดเรื่องอื่น ๆ สูดหายใจยาว ๆ
จะทำให้เกิดการผ่อนคลาย และเดินทางได้นานขึ้น
9. ความรู้ทางด้านช่างเบื้องต้น: ระวังรักษา ท่อไอดี และไอเสีย
และท่อเติม น้ำมัน ให้ทำงานดีเสมอ การใช้งานอย่างสับสน
ผิดท่อผิดทางนั้น อาจเกิดความตื่นเต้นในการขับขี่เป็นครั้งคราว
แต่ทั้งนี้ อาจเกิดผลเสียแก่เครื่องยนต์ในระยะยาว รักษาความสะอาด
ทั้งห ัวจ่ายน้ำมัน และท่อต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
หมั่นตรวจเครื่องยนต์และอื่น ๆ ชมได้ ห้ามติ โดยเฉพาะ กันชนเล็กไป
นุ่มไป เหลวไป หย่อนไป เครื่องหลวม เครื่องสั่น ม่ฟิต เร่งไม่แรง
แซงไม่พ้นโปรดพึงสังวร ว่าเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกวิธีของท่าน
หาใช่เกิดจากผู้ผลิต
10. ความปลอดภัย และวินัยจราจร: เมาไม่ขับ เนื่องจาก
หากเมามากเกินไป แม้มีความเชื่อว่า จะทำให้ขับได้นาน ทรหดก็ตาม
แต่ก็จะสูญเสียทัศนวิสัย และความสามารถในการตอบสนองอื่น ๆ
อาจเกิดการผิดที่ผิดทาง ลืมคาดเข็มขัดนิรภัย ขับผิดคัน
ล้วนแต่เป็นเหตุแห่งความเสี่ยงต่อชีวิตทั้งสิ้น
วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ยาธรรมชาติ
หัวจดเท้ารักษาเองได้ก่อนไปหาหมอ
๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ
๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้
๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)
๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
๗.นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้งไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและมะรุมเข้าไปหน่อย
๘.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้มกะปิและสับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก ( แมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาลและกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก
๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ
๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้
๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)
๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
๗.นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้งไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและมะรุมเข้าไปหน่อย
๘.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้มกะปิและสับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก ( แมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาลและกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก
วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
อาการบ่งชี้ตัวที่ 4 ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง

B lood Clots/Stroke - They Now Have a Fourth Indicator, the Tongue
อาการบ่งชี้ตัวที่ 4 ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง
I will continue to forward this every time it comes around!
ไม่ว่าจะได้รับเมล์นี้อีกกี่ครั้ง ฉันก็จะส่งต่อไป
STROKE: Remember the 1st Three Letters.... S.T.R.
เส้นเลือดอุดตันในสมอง (Stroke) ให้จำไว้ว่า อักษร 3 ตัวแรกคือ S.T.R
My nurse friend sent this and encouraged me to post it and spread the word. I agree.
เพื่อนพยาบาลส่งเมล์นี้มาให้ และสนับสนุนให้ฉันส่งต่อไปอีกเรื่อยๆให้ทั่วโลกเลยยิ่งดี ฉันก็เห็นด้วย
If everyone can remember something this simple, we could save some folks. Seriously..
ถ้าเราสามารถจำสิ่งง่ายๆเหล่านี้ได้ เราจะช่วยชีวิตคนบางคนได้..อันนี้เรื่องจริง
Please read:
STROKE IDENTIFICATION:
อาการบ่งชี้ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง
During a BBQ, a friend stumbled and took a little fall - she assured everyone that she was fine (they offered to call paramedics)
she said she had just tripped over a brick because of her new shoes.
ระหว่างงานเลี้ยงบาร์บีคิว เพื่อนคนหนึ่งสะดุดล้มลงไปกองกับพื้น แต่เธอบอกกับทุกคนว่าเธอไม่เป็นไร (เพื่อนๆถามว่าจะให้เรียกแพทย์เคลื่อนที่มั้ย) เธอบอกว่าเธอแค่สะดุดก้อ นหินเพราะยังไม่ชินที่ใส่รองเท้าคู่ใหม่มา
They got her cleaned up and got her a new plate of food. While she appeared a bit shaken up, Ingrid went about enjoying
herself the rest of the evening
ทุกคนช่วยกันปัดเศษสกปรกออกไปจากตัวเธอและไปตักอาหารมาให้ใหม่ ตัว Ingrid เองหลังจากนั้นรู้สึกว่าจะมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่ก็สนุกสนานดีตลอดเย็นวันนั้น
Ingrid's husband called later telling everyone that his wife had been taken to the hospital - (at 6:00 pm Ingrid passed away.) She had suffered a stroke at the BBQ. Had they known how to identify the signs of a stroke, perhaps Ingrid would be with us today. Some don't die. they end up in a helpless, hopeless condition instead.
หลังจากนั้น สามีของ Ingrid โทรหาเพื่อนๆทุกคนว่า ภรรยาเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล (และเสียชีวิตในเวลา 6 นาฬิกา) เธอมีอาการของเส้นเลืดอุดตันในสมองตั้งแต่ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงบาร์บีคิวแล้ว ถ้าทุกคนรู้ว่าเธอมีอาการนี้เสียตั้งแต่แรก บางที Ingrid อาจจะยังอยู่กับพวกเราในวันนี้ก็ได้ บางคนก็ไม่เสียชีวิต แต่ต้องใช้ชีวิตอย่างคนสิ้นหวังและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
It only takes a minute to read this...
ใช้เวลาอ่านบทความนี้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
A neurologist says that if he can get to a stroke victim within 3 hours he can totally reverse the effects of a stroke... totally . He said the trick was getting a stroke recognized, diagnosed, and then getting the patient medically cared for within 3 hours, which is tough.
แพทย์ด้านประสาทวิทยากล่าววา ถ้าแพทย์สามารถไปถึงตัวผู้ป่วยเส้นเลือดสมองอุดตันได้ภายใน 3 ชั่วโมง แพทย์จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้แน่นอน ที่สำคัญก็คือต้องทราบว่าผู้ป่วยมีอาการของโรคนี้ วินิจฉัยได้ได้ จากนั้นก็ให้การรักษาภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องจริงนั้นเป็นไปได้ยากอยู่
RECOGNIZING A STROKE
ต้องรู้ก่อนว่ามันคือเส้นเลือดสมองอุดตัน
Thank God for the sense to remember the '3' steps, STR . Read and Learn!
ขอบคุณพระเจ้าที่หาวิธีจำง่ายๆมาให้ STR
Sometimes symptoms of a stroke are difficult to identify. Unfortunately, the lack of awareness spells disaster.
The stroke victim may suffer severe brain damage when people nearby fail to recognize the symptoms of a stroke.
บางครั้งอาการของโรคเส้นเลือดสมองอุดตันก็เป็นการยากที่จะรู้กันได้ แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือ การไม่รู้อาจหมายถึงหายนะได้ สมองผู้ป่วยอาจจะโดนทำลายอย่างรุนแรง แต่คนรอบข้างไม่ได้รู้เลยว่านี่คืออาการของเส้นเลือดสมองอุดตัน
Now doctors say a bystander can recognize a stroke by asking three simple questions:
หมอบอกว่า คนที่ยืนอยู่รอบข้างก็สามารถรู้อาการได้ โดยคำถาม 3 ข้อ ดัง นี้
S *Ask the individual to SMILE.
S คือบอกให้ผู้ป่วย ยิ้ม
T *Ask the person to TALK and SPEAK A SIMPLE SENTENCE (Coherently)
(i.e.. It is sunny out today.)
T คือบอกให้ผู้ป่วยพูด โดยอาจจะเป็นประโยคง่ายๆ เช่น วันนี้อากาศดีนะ
R *Ask him or her to RAISE BOTH ARMS.
R คือบอกให้ผู้ป่วยยกแขนทั้งสองข้างขึ้น
If he or she has trouble with ANY ONE of these tasks, call emergency number immediately and describe the symptoms to the dispatcher.
ถ้าผู้ป่วยมีความลำบากในการทำข้อใดข้อหนึง ให้โทร.หาเบอร์ฉุกเฉินทันทีและแจ้งไปว่าผู้ป่วยมีอาการอย่างไร
New Sign of a Stroke -------- Stick out Your Tongue
สัญญาณใหม่ของเส้นเลือดสมองอุดตัน -- แลบลิ้นออกมาดู
NOTE: Another 'sign' of a stroke is this: Ask the person to 'stick' out his tongue.. If the tongue is 'crooked', if it goes to one side or the other, t hat is also an indication of a stroke.
หมายเหตุ : สัญญาณอีกประการหนึ่งก็คือ ลองให้ผู้ป่วยแลบลิ้นออกมา หากลิ้นมีลักษณะม้วนงอ ตกไปด้านใดด้านหนึ่ง นั่นคือข้อบ่งชี้ว่ามีอาการเส้นเลือดสมองอุดตัน
A cardiologist says if everyone who gets this e-mail sends it to 10 people; you can bet that at least one life will be saved.
I have done my part. Will you?
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจบอกว่า หากคุณได้รับอีเมล์นี้ และส่งต่อไปอีก 10 คน อาจมีผลทำให้สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างน้อย 1 คน ก็ได้
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
