banner_UK

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

เรื่องของเมีย‏

เมียหลวง
คือ ภรรยาที่เคยดีที่สุดในอดีต แต่กาลเวลาและสิ่งแวดล้อมทำลายความดีของเธอ
จนหมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้น และทิ้งความโหดร้ายไว้ให้เธอต้องรับผลกรรม คือ
ความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น แก่ง่าย ตายยาก พูดมาก กินจุ อ้วนเหมือนหมู ดุเหมือนเสือ

เมียเก็บ
คือ อาหารพิเศษ มีรสชาติแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไป เหมาะที่จะกินเป็นครั้ง
เป็นคราว เพื่อแก้เลี่ยน เป็นสินค้ายอดนิยมและมีราคาแพง เงื่อนไขเยอะ

เมียน้อย
คือ ผู้หญิงที่ดีที่สุด ที่ผู้ชายเพิ่งมาค้นพบภายหลัง

เมียแต่ง
คือ ผู้หญิงที่ทรงคุณค่าและคุณผู้ชายอยากจะประทับรอยรักสุดใจขาดดิ้น แต่ไม่
สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่านี้

เมียเช่า
คือ ผู้หญิงผิวคล้ำ ขี้ร้อน ใช้เสื้อผ้าน้อยชิ้น สูบบุหรี่กินเหล้าเป็นงานอดิเรก รสนิยม
สูง นิยมบริโภคของนอก มีปริมาณความรักขึ้นลงตามกระแสเงินสด

เมียจ๋า
คือ ผู้หญิงหน้าดุเหมือนเสือ ยืนชูไม้ต้นรักเหมือนเทพีสันติภาพ และมีสามีนั่งคุก
เข่าอยู่กับพื้น ประสานมือเหนือหน้าอกเหมือนไหว้เจ้า เพราะมีประวัติเพิ่งทำการ
ละเมิดข้อห้ามร้ายแรงของภรรยาบังเกิดเกล้า ลักษณะตัวสั่น น้ำลายไหลเล็กน้อย
พูดตะกุกตะกักว่า เมียจ๋า ซึ่งเป็นคำพูดในความหมาย ขออภัย ไถ่โทษ

เมียกู
คือ ผู้หญิงสวย ขาว หุ่นเพรียวผอม อายุน้อย หน้าตาน่ารัก เพราะยังไม่มีการรวม
ตัวของไขมันและตีนกา พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ผู้ชายที่พบเห็นจะเกิดอาการเขื่อน
กั้นน้ำลายพัง ทำให้เอ่อล้นออกมานอกปาก แสดงอาการหึงหวง กีดกันชายอื่นไม่
ให้เข้าใกล้ แสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่บางครั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง

เมียบังเกิดเกล้า
คือ ผู้หญิงที่น่าเบื่อที่สุดในโลก ความรู้น้อย บริหารงานไม่เป็น vision เป็นศูนย์
เผด็จการ ชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ใช้คำพูดหยาบคาย
บุคลิกภาพน่ารังเกียจ เป็นที่ชิงชังของเพื่อนบ้านและผู้ชายทั่วไป โดยเฉพาะสามี
จากคุณสมบัติที่น่าสยดสยองดังกล่าว ทำให้สามีเกลียด ขยะแขยง คลื่นไส้จนไม่
อยากพูดด้วย ไม่อยากโต้ตอบ ไม่อยากมีเรื่อง สามีที่มีภรรยาประเภทนี้ จึงใช้คำ
พูดอยู่สองคำ คือ ครับ และ ใช่ครับ และใช้สรรพนามเรียกภรรยาว่า แม่ มัก
อธิบายให้เพื่อนฟังว่า เรียกตามลูก แต่เพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าเรียกตามลูกหรือเรียก
ด้วยความเคารพยำเกรง เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง และที่สำคัญ ได้ลบคำว่า นอก
ใจออกจากสมองและพจนานุกรมในบ้านเรียบร้อยแล้ว

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

ระวัง เบียร์ 037


เมื่อคืนวาน ไปกินเบียร์หน้าแหลมทอง สั่งลีโอ
พอมันเห็นว่า เราชักเมา แม่งแอบเปลี่ยนยี่ห้อเบียร์
พอเราทักมันก็เถียงอีกว่าพี่กินยี่ห้อนี้ มาตั่งแต่หัวค่ำ
มันหาว่าเราเมาแล้วมั่ว
ผมบอกว่า “ ไอ้น้องพี่กิน สั่งลีโอมาตั้งแต่หัวค่ำ นี่เอาอะไรมาให้วะ”
เด็กร้าน” ก็พี่สั่งยี่ห้อนี้ตั้งแต่แรกแล้วนิครับ”
ผมพูดแบบโมโหนิดๆ “ นี่มึงหาว่ากรูเมาชะป่ะ กูบอกว่า กูแดกลีโอ มึงเอา เบียร์เหี้ยอะไรเนี๊ย 037 เบียร์ แมร่งมาจากจีนรึเปล่า แสด กูไม่เมานะโว๊ย”
แล้วผมก็ถ่ายรูปเก็บมาให้ดูเป็นหลักฐาน ซักพักเดียวเด็กร้านมากันตั้งหลายคน ผมคิดว่าโดนแน่ๆ เลย เช็คบิลกลับบ้าน ก่อนกลับผมแอบทิ้งท้าย
ผมบอกว่า” ไอ้แสดดดด กู นัน อพอลโล แดกเบียร์ แทนน้ำโว๊ย ยังไงก็ไม่เมา เสียกหาว่ากูเมา กูถ่ายรูปไว้แล้ว จะเอาร้านมึงไปประจาน”

ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย อย่าไปนะร้านนี้ เดี๋ยวเจอแบบผม

แอบเปลี่ยนจากลีโอเป็นเบียร์ชื่อ 037 ไม่รู้จัก
สงสัยเบียร์จากเมืองจีนมั๊ง ...

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

สุดยอดคำถามประกวดนางงาม

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส อเมริกา ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส อเมริกา : ในบ้านของไอ เราเรียกมันว่า สุภาพบุรุษ

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส อเมริกา: เพราะว่ามันลุกขึ้นทุกครั้ง ที่เห็นสุภาพสตรี

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ!)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส สเปน ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของอวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส สเปน : ไอ้นั่นของผู้ชาย ในประเทศของเรา เหมือนกับ วัวกระทิง

ที่เราใช้ในการแสดงการสู้วัวกระทิง

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส สเปน : เพราะว่า มันพุ่งเข้าหาทุกครั้ง ที่เห็นช่องเปิด

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ!)



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส ฟิลิปปินส์ ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสฟิลิปปินส์ : ฉันพูดได้เลยว่า ไอ้นั่นของผู้ชายในบ้านดิฉัน

เหมือนกับข่าวซุบซิบ และ ข่าวลือ

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส ฟิลิปปินส์ : เพราะว่า มันผ่านจากปากนึง สู่อีกปากนึงต่อๆกัน

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ! พร้อมทั้งลุกขึ้นโห่กรี๊ดลั่นต่อด้วยเสียงปรบมือยาว



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส อิหร่าน ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส อิหร่าน : โอ้ ในบ้านชั้น เราว่า ไอ้นั่น

ของผู้ชายมันเหมือนกับ ขโมย

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส อิหร่าน : เพราะว่า พวกมันชอบเข้า ทางประตูหลัง

(เสียงปรบมือ แปะๆ แปะๆ! พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น ยาวต่อด้วยเสียงปรบมือยาว )



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส อินเดีย ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส อินเดีย : อืมมม ในประเทศ ของฉานๆๆ เรา ว่าไอ้นั่น ของผู้ชาย

มันคล้ายกับ กรรมกร

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส อินเดีย : เพราะว่าพวกมันต้องทำงานหนัก ทั้งกลางวันและกลางคืนน่ะสิ

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ! แปะๆ! แปะๆ!แปะๆ! แปะๆ!ติดต่อกันยาวนาน )



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส มาเลเซีย ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสมาเลเซีย : อ้อ ในมาเลเซีย เราคิดว่าไอ้นั่นของผู้ชายเหมือนรถโปรตอน

รถแห่งชาติ ของเรานี่แหละ

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส มาเลเซีย : เพราะว่า แม้ว่ามันจะดูบึกบึน แต่ความจริงแล้ว มันอ่อนมากๆๆ

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ! พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น ยาวต่อด้วยเสียงปรบมือยาว )



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส สิงค์โปร์ ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสสิงค์โปร์ : ในสิงค์โปร์เราเรียกไอ้นั่นของผู้ชาย ว่าพวก Kia-Su (พวกกลัวพลาด)

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส สิงค์โปร์ : เพราะพวกมันชอบที่จะพรวดพราดเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว

ก็รีบออกมา 15นาที ก่อนการแสดงจะจบทุกที

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ! แปะๆ!แปะๆ! แปะๆ!แปะๆ! แปะๆ! ติดต่อกันยาวนาน )



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิส ไชน่า ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิส ไชน่า : ในจีนพวกเราว่าไอ้นั่นของผู้ชายคล้ายกับท่านผู้นำ Deng Siu Ping.

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?

มิส ไชน่า : คือว่า แม้มัน สั้น(เตี้ย) และ ต้องตรากตรำ งานหนัก

แต่ว่ามันก็ยัง ทำงานได้จนถึงอายุ 90 ปี

(เสียงปรบมือ แปะๆ! แปะๆ พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น ยาว ต่อด้วยเสียงปรบมือยาว)



พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : มิสไทยแลนด์ ไม่ทราบว่า ในประเทศของคุณ

คุณให้คำจำกัดความของ อวัยวะของผู้ชาย(ไอ้นั่น) ว่า อย่างไร ?

มิสไทยแลนด์ : ในประเทศของเรา เราเปรียบไอ้นั่นเหมือนกับนักการเมือง

พิธีกรผู้ตั้งคำถาม : ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?

มิส มิสไทยแลนด์ : อ๋อ เพราะว่า พวกมันวันๆ งานการไม่ทำได้แต่เดินแกว่งไป แกว่งมา

แล้วก็ถุย!!! ไปวันๆ เท่านั้น

นิทานคลายเครียด

กาลครั้งหนึ่งไม่นานเท่าไหร่หรอกหญิงนางหนึ่งถูกสาปไว้

ถ้าจับสิ่งใดขอให้หลอมละลายกลายเป็นไอน้ำ พระราชาเป็นห่วงบุตรี

หาวิธีแก้ไขอย่างไรก็มิหาย หมดหนทางที่จะช่วยบุตรี

แต่จู่ ๆ ก็มีนางฟ้ามาปรากฏกายขึ้น

และก็จะถอนคำสาปให้หายโดยพลัน

แต่นางมีข้อแม้อย่างหนึ่งว่า

จะต้องมีชายคนหนึ่งหาสิ่งใดก็ได้มาให้บุตรีจับ

แล้วไม่ละลาย คำสาปนั้นจึงจะหายไป

พระราชาไม่รอช้ามุ่งหน้าป่าวประกาศโดยพลัน

; หากชายใดสามารถถอนคำสาปได้ใน 1 วัน

ฉันจะยกลูกสาวให้เจ้าไป จนสามารถคัดเลือกเหลือ 3 คน

คนที่หนึ่งจึงเริ่มเอาของดีมาแก้ไข

หยิบโครตเพชรเม็ดงามให้ ทรามวัย

เจ้าหญิงจึงยื่นมือไปแล้วแตะในทันที

ยังไม่ทันจะแตะได้เต็ม

มือ เพชรก็หายละลายไปสิ้น

' ฉันเสียใจด้วยจริงๆ

เพชรเม็ดนี้ต้องละลายไป '

เจ้าหญิงกล่าว

ชายคนที่สองรองถัดมา

ก็เดินมาเบื้องหน้าของเจ้าหญิง

ยื่นเหล็กแหลมแข็งแกร่งไม่อ่อนนิ่ม

ให้เจ้าหญิงลองจับสัมผัสดู

แต่แล้วมันก็ละลายหายไปหมด

' เธอก็อด ตกรอบไปเสียสิ้น '

คนสุดท้ายเดินมาตัวปล่าวไม่มีทรัพย์สิน

บอกเจ้าหญิงจงเอามือล้วงลงไปในกางเกง

เจ้าหญิงจึงล้วงลงไปในกางเกงของชายผู้นั้น

หน้าเจ้าหญิงก็เริ่มแดง ด้วยความเขินอาย

แล้วจึงรีบดึงมือออกโดยพลัน หันมาบอกราชา

' เสด็จพ่อเพคะ ...มัน....

มันยังแข็งอยู่เลยคะ '

ในที่สุดชายคนที่ 3 ก็ได้เป็นผู้ชนะไป

พระราชาสงสัย มันคือะไร

อยู่ในกางเกงของชายผู้นั้น ..... ?

ชายคนที่ 3 ไม่ยอมตอบ ได่แต่อมยิ้ม

และก็ได้ล้วงเข้าไปในกางเกงของเขา

แล้วหยิบมันออกมา

มันคือ ? M & M
ละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือ เหอๆๆ

วิธีเลือกเมีย

วิธีเลือกเมีย
ผู้ชายคนนึงอยากแต่งงาน
แต่ไม่รู้จะเลือกใครดี ระหว่างผู้หญิง 3 คน
เขาเลยให้ของขวัญทั้ง 3 คน เป็นเงินสดคนละ 5,000 เหรียญ
แล้วดูว่าแต่ละคนจะทำอะไรกับเงินที่ให้ไป
คนแรก เอาไปใช้เรื่องแต่งตัวหมดเลย
เธอเข้าร้านเสริมสวย ทำผม ใหม่
แต่งหน้าใหม่ ซื้อชุดสวย ๆ ใหม่ใส่
เธอบอกเขาว่า ที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากสวยสำหรับเขา
เพราะเธอรักเขามาก
เขาประทับใจเธอมาก
สาวคนที่สอง ไปซื้อของใช้ผู้ชายให้เขา
เธอซื้อไม้กอล์ฟใหม่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
และเสื้อผ้าแพงๆ ให้เขา
ตอนเธอให้ของขวัญเขา
เธอบอกว่า เธอใช้เงินทั้งหมด เพื่อเขาคนเดียว
เพราะเธอรักเขา
เขาก็ประทับใจอีก
คนที่สาม เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น
ได้เงินมาหลายเท่า
เธอคืนเงิน 5,000 เหรียญแก่เขา
และลงทุนต่อ โดยใช้ชื่อร่วม
เธอบอกเขาว่า เธออยากเก็บเงินไว้เพื่ออนาคต สำหรับเธอและเขา
เพราะเธอรักเขามาก
เขาประทับใจเป็นที่สุด
ชายหนุ่มคิดอยู่นาน เกี่ยวกับวิธีใช้เงินของผู้หญิงแต่ละคน
( เป็นคุณจะเลือกใคร)



และแล้ว เขาก็แต่งงานกับคนที่นมใหญ่ที่สุด
ผู้ชาย ก็เป็นแบบนี้แหละ รู้ไว้ซะ

ถ้าคุณไม่ส่งเมล์นี้ต่อไปให้เพื่อนอีก 5 คนทันทีจะมีคนหัวเราะน้อยลง 5 คน
( หมายความว่า ถ้าส่งไปจะต้องมีคนหัวเราะแน่ เพราะฉะนั้นรีบส่งซะ)

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553


มีต้นมะพร้าวต้นหนึ่งที่สูงๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆ และที่นั่นก็มีสัตว์อยู่ 4 ชนิด

1. สิงโต
2. ลิงแชมแพนซี
3. ยีราฟ
4. กระรอก

พวกมันแข่งกันว่า ใครจะปีนไปเก็บกล้วยได้เร็วที่สุด

คุณลองเดาซิว่า ใครจะชนะ?

คำตอบของคุณเป็นผลสะท้อนต่อบุคลิกภาพของคุณนะ

ดังนั้น คิดให้รอบคอบ พยายามและตอบภายใน 30 วินาที

ได้คำตอบรึยัง?

ไปดูคำตอบกันนนนนนน





ถ้าคำตอบของคุณคือ...



ตอบ สิงโต = คุณโง่มาก!!


ตอบ ลิงซิมแพนซี = คุณเป็นคนปัญญาอ่อน!!


ตอบ ยีราฟ = คุณเป็นคนสมองทึบ อีเดียท!!


ตอบ กระรอก = คุณไร้สมองสุดๆ!!




ต้นมะพร้าวจะมีกล้วยได้ไงฟร่ะ!!! 555++


เห็นได้ชัดเลยว่า คุณกำลังเครียดมากและทำงานหนักเกินไป
ควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้างนะ
พยายามใหม่ ปีนี้!!

ที่ปายหนาวววววว มากกกกกกก เลยคู้ณณณณ


หนาวจิงอ่ะ

10 อันดับที่ผู้ชายเสียเปรียบผู้หญิง‏

อันดับ 1
ผู้หญิงหอมแก้มกัน : ดูน่ารัก
ผู้ชายหอมแก้มกัน : อืยยย...หวาดเสียว ขนลุก

อันดับ 2
ผู้หญิงใส่กางเกงฟิตๆ : น่ามองจิงๆ น่าชม
ผู้ชายใส่กางเกงฟิตๆ : แหยะ! จะอ้วก

อันดับ 3
ผู้หญิงตบผู้ชาย : ป้องกันตัว หรือ "สุดจะทน"
ผู้ชายตบผู้หญิง : ไอ่หน้าตัวเมีย!

อันดับ 4
ผู้หญิงร้องไห้ : ดูน่าสงสาร
ผู้ชายร้องไห้ : ปลาซิว

อันดับ 5
ผู้หญิงเป็นเพื่อนกัน ดูแลห่วงใยเอาใจใส่กัน : ดูน่ารักดี สดชื่น
ผู้ชายเป็นเพื่อนกัน ดูแลห่วงใยเอาใจใส่กัน : ชักแปลก ดูเหมือนคู่เกย์

อันดับ 6
ผู้หญิงหลอกรับประทานผู้ชาย : อ่อ อาจเป็นเรื่องปกติ
ผู้ชายหลอกรับประทานผู้หญิง : สารเลว เกาะผู้หญิงกิน

อันดับ 7
ผู้หญิงพูดตรงๆ : ดูเป็นคนเปิดเผย
ผู้ชายพูดตรงๆ : ไอ่บ้า พูดไม่เข้าหูคน

อันดับ 8
ผู้หญิงเข้าห้องน้ำผู้ชาย : มันผิดพลาดกันได้!
ผู้ชายเข้าห้องน้ำผู้หญิง : ไอ่บ้า! โรคจิต

อันดับ 9
ผู้หญิงเดินตกท่อ : น่าสงสารจัง เป็นอะไรมากมั้ย?
ผู้ชายเดินตกท่อ : ไอ่โง่! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือซะเลย

อันดับ 10
ผู้หญิงขับรถปาดหน้า : ช่างเหอะ ผู้หญิงก้ออย่างนี้แหละ
ผู้ชายขับรถปาดหน้า : แซงขึ้นแล้วยิง!!
อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ ***

เทคนิคมองโลกในแง่ดี (ตอนที่ ๑)‏

คนไทยสมัยนี้เครียดกันง่ายจัง วัน ๆ หนึ่งต้องพบกับความทุกข์ใจ ไม่สบายใจ กังวลใจ กันหลาย ๆ ครั้ง ไม่เหมือนกับคนไทยสมัยโบาณที่กว่าจะเกิดความเครียดขึ้นมาได้ โน่น..ต้องมีเสือบุกเข้ามากินวัว โจรบุกเข้ามาปล้น ถึงจะเกิดความเครียดกันทีหนึ่ง เรียกว่าวัน ๆ หนึ่งแทบจะไม่รู้จักความเครียดกันเลย ใบหน้าคนไทยสมัยก่อนจึงมีแต่รอยยิ้ม พวกฝรั่งซึ่งเป็นคนมาจากวัฒนธรรมอื่นมาเห็นเข้าพากันแปลกใจว่าทำไมคนไทยอารมณ์ดีกันจัง ก็เลยตั้งชื่อว่าให้ว่า "สยามเมืองยิ้ม"
นอกจากนี้คนไทยยังมีวิธีคิดที่ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา ให้รู้จักคิดปล่อยวาง คิดให้สบายใจ ในยามที่ต้องพบกับปัญหาหนักๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจุบันนี้ยังเหลือร่องรอยวิธีคิดเหล่านี้อยู่ในนิสัยคนไทยทั่ว ๆไปบ้าง แต่บางคนก็ลืมไปแล้ว หรือคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก วันนี้เครือข่ายฯจึงขอนำวิธีคิดเหล่านี้นำมาปรับปรุงแก้ไขให้มีความเป็นพุทธ และ ให้มีความทันสมัย เหมาะกับคนยุคปัจจุบันมากขึ้น นำเสนอเป็นเทคนิควิธีคิดมองโลกในแง่ดีสำหรับคนยุคไอที ดังต่อไปนี้


ยามพบอุปสรรคในการทำงาน

ไม่เป็นไร..เอาใหม่ : คำพูดนี้สำคัญมากครับ เอาไว้ใช้อุทาน เวลาท่านต้องประสบกับปัญหาความล้มเหลวในการทำงานหรือ เจอข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน หรือ เวลาเพื่อนร่วมงานทำงานผิดพลาด คำพูดนี้จะเป็นเครื่องปลอบใจและให้กำลังใจได้เป็นอย่างดี คำว่า "ไม่เป็นไร" เป็นคำที่ทำให้จิตใจปล่อยวางจากปัญหา ไม่ถูกบีบคั้นจากปัญหา คำว่า "เอาใหม่" เป็น คำพูดที่ปลุกคุณธรรมข้อ"วิริยะ" แปลว่า เพียรสู้งาน ปลุกใจให้เราคิดสู้ปัญหา ไม่ท้อถอย


ยามพบกับเหตุการณ์ร้ายที่ไม่พึงปรารถนา

โชคดีนะเนี่ย : ไม่ว่าคุณเจอะเจอกับความทุกข์กายทุกข์ใจอะไรในชีวิตประจำวัน ให้คิดเสียว่าสิ่งเลวร้ายที่เราต้องประสบทุก ๆ ครั้ง มันไม่ได้ร้ายกาจจนถึงที่สุดแม้สักอย่างเดียว มันเป็นความ"โชคดี"ของเราจริง ๆ ที่ไม่เจอหนักกว่านี้

ยกตัวอย่าง
เดินหัวชนเสาหัวปูด อุทานว่า " อูย ! ..โชคดีนะเรา หัวยังไม่แตก "
โดนตัดเงินเดือน พูดกับตัวเองว่า " เขาไม่ไล่เราออก ก็บุญแล้ว ถือว่ายังโชคดีนะเนี่ย"
ทำกาแฟร้อน ๆหกรดขากางเกง พูดกับตัวเองว่า " เหอ..ๆ โชคดี ที่มันไม่หกรดเป้ากางเกงเรา "
ยามมีปัญหากับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

เขายังดีนะ : เวลาคุณมีปัญหากับเพื่อนมนุษย์ เช่นเพื่อนร่วมงาน คนข้างบ้าน ฯลฯ เช่น บางคนอาจจะทำงานไม่ถูกใจ บางคนอาจจะทำอะไรผิดใจคุณ หรือ บางคนอาจจะมีเจตนาไม่ดีกับคุณ ให้คิดเช่นเดียวกันว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันก็ยัง ไม่ได้ร้ายกาจถึงที่สุดกับคุณแต่อย่างใด มันยังมีแง่ดี ๆ ให้เราคิดถึงเขาอยู่เสมอ

ยกตัวอย่าง
คนข้างบ้านนินทาเรา เราก็บอกกับตัวเองว่า โอ้..นี่เขายังดีนะที่ไม่ถึงกับมาดักทำร้ายเรา
มีคนมาขโมยปากกาที่โต๊ะทำงานเราไป เราก็คิดว่า เจ้าขโมยนี่ยังดี ที่ไม่ยกเครื่องคอมพ์เราไป
สาวหักอก เราก็คิดว่า เธอยังดีนะเนี่ย ที่ไม่ควงคู่แข่งมาเย้ยเราให้เจ็บใจหนักไปกว่านี้
เพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ เราก็คิดว่า เขาก็ยังดีที่ไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราข้างหลัง


เทคนิคคิดเมื่อเจอปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

เอ๊ะ..! ตรงนี้เราได้อะไร : เป็นการตั้งคำถามเพื่อให้จิตตั้งแง่คิดเพื่อมุ่งหาความรู้ทันทีที่ได้พบกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น นาย ก. เดินตกท่อ ขาแข้งถลอก นาย ก. ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวด กลับตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า เราเดินตกท่อตรงนี้ เราได้อะไร ! เท่านั้นเองคำตอบต่าง ๆ ก็พรั่งพรูออกมามากมาย อาทิเช่น
ก.เราได้ดูแลรักษาตัวเองอีกแล้วดีจัง ไม่ได้ดูแลตัวเองมานาน
ข.เราได้บทเรียนซาบซึ้งกับคำว่า "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง"
(เคยเดินมาดีๆ ทุกวัน วันนี้ใครกันดันมาเปิดฝาท่อ)
ค.มันทำให้เราได้ไอเดียเกี่ยวการทาแถบสีสะท้อนแสงตรงขอบท่อ เพื่อคนจะได้สังเกตเห็นได้แต่ไกล ๆ
วิธีคิดเช่นนี้จะทำให้เรารู้สึกเลยว่า ชีวิตนี้มีแต่ได้ ไม่มีเสีย คือ แม้ว่าเราจะพบกับสิ่งที่ไม่น่าพึงปรารถนาก็ตาม แต่ถ้าหากว่าเรารู้จักตั้งคำถามเช่นนี้เป็นนิสัย เราก็จะได้สิ่งที่ดีๆ มากมายจนบางครั้งเราอาจจะต้องนึกขอบคุณที่ได้เจอกับปัญหาบ่อย ๆ เลยทีเดียว

กฎที่ เจ้าสาว-เจ้าบ่าว ตกลงกัน 555!!‏

เช้าวันแรกหลังคืนแต่งงาน เจ้าสาวหมาดๆ ของเรา ก็ถูกเจ้าบ่าวปลุกขึ้นมา ฟังกฏบางข้อ... ที่เขาบอกว่าเธอจำเป็นต้องรู้ไว้
"ผมอยากทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน อยากให้คุณรับรู้เงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับตัวผม เราจะ ได้ไม่มีปัญหากันภายหลังไงครับ"
-ข้อแรก....ผมจะกลับบ้านเมื่อไรก็ได้ ถ้าผมอยากกลับดึก ผมก็จะกลับดึก หรืออาจจะกลับเร็วก็ได้ไม่มีใครมาบังคับผมได้
-ข้อสอง...เมื่อถึงบ้าน อาหารเย็นจะต้องพร้อมอยู่ บนโต๊ะเสมอ นอกเสียจากว่าผมจะทานมาจาก
ข้างนอกแล้ว
-ข้อสาม...ผมจะออกไปสังสรรค์ กิน ดื่ม เที่ยวกับเพื่อน เมื่อไรก็ได้เท่าที่ผมต้องการ
"เอาละ มีแค่นี้แหละ คุณมีปัญหาอะไรมั้ย"
...อู้หู...แค่เนียะก็ทำเอาเจ้าสาวมือใหม่ของเรา หายงัวเงียเป็นปลิดทิ้งเลย

"อ๋อ.... ไม่มีปัญหาหรอกค่ะที่รัก แต่ฉันก็มีกฏของฉันเหมือนกันนะ ซึ่งคุณจะต้องรับรู้ไว้เช่นกัน"
หลังจากตั้งหลักได้ เธอก็ยิ้มหวาน พูดต่อไปว่า

"ที่บ้านหลังนี้จะต้องมี sex ตรงเวลาทุกคืน ไม่ว่าจะมีคุณอยู่หรือไม่ก็ตาม เข้าใจนะคะ.. สุดที่รัก"

คลายเครียด คู่บ่าวสา (อย่างฮา) 555‏

ในงานแต่งงานงานหนึ่ง ในขณะที่ดื่มกินกันไปได้สักพักใหญ่ พิธีกรในงานก็เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวทีเพื่อกล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆ เป็นการขอบคุณแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่ง เจ้าบ่าวที่เริ่มจะได้ที่ก็ขึ้นกล่าวทันที ว่ากันเป็นกลอนเลย
" วันนี้ดีใจจะได้เมีย หลังจากที่ได้เสียกันหลายหน
วันนี้จะมีเมียเป็นตัวตน ขอบใจแขกทุกคนที่มางาน "

พอกล่าวจบเท่านั้น พวกเพื่อนๆเจ้าบ่าวปรบมือกันเกรียวกราว ต่างพูดกันขรมว่า " มันแน่จริงๆว่ะ .... เพื่อนกู "
ฝ่ายเจ้าสาวก้อรู้สึกอับอาย และเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง จึงกล่าวขอบคุณบรรดาแขกที่มาร่วมงานด้วยเสียงหวานๆน่ารักว่า... " เช่นกันค่ะ "

" วันนี้ดีใจจะได้ผัว หลังจากที่เสียตัวมาหลายหน
ในวันนี้จะมีผัวเป็นตัวตน แต่เป็ นคนที่เท่าไหร่...ไม่ได้จำ "

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553